Category: Blogging

แวะมาเอาใจทาสแมวกับตัวละครน่ารักๆ ทั้ง 8 ไปทำความรู้จักกันแบบเพลินๆ เพื่อทำความรู้จักและเข้าใจตัวละครมากขึ้น เอาไว้เวลาดูการ์ตูนหรือภาพยนตร์จะได้เข้าถึงตัวละครเหล่านั้นมากขึ้น มาดูกันดีกว่าว่าตัวการ์ตูนตัวไหนบ้างที่เป็นแมว เอาใจทาสแมวโดยเฉพาะ 

1.Kitty

เริ่มกันที่ตัวละครแรก Kitty แมวน่ารักขวัญใจเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง มีคอลเลคชั่นน่ารัก ๆ ออกมาให้ได้สะสมมากมาย โดยคิตตี้มีชื่อจริงว่า คิตตี้ ไวท์ อาศัยอยู่ในบ้านสีแดงกับครอบครัว เกิดวันที่ 1 พ.ย.1974 คิตตี้เป็นแมวที่มีนิสัยร่าเริงและใจดี งานอดิเรกของคิตตี้คือทำขนมหวาน ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเปียโนและนักกวี คิตตี้ในความเข้าใจของใครหลายๆ คน คงไม่พ้นที่ว่า “คิตตี้เป็นแมว” ถึงแม้ว่าเมื่อ 28 สิงหาคม 2014 จะมีการเผยแพร่ข้อมูลจากบทสัมภาษณ์ของคริสติน ยาโนะ หัวหน้าผู้ดูแลงานนิทรรศการ เฮลโล คิตตี้ (Hello Kitty) ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติญี่ปุ่น-สหรัฐอเมริก ที่ได้เผยว่าจริงๆ แล้ว “คิตตี้ไม่ใช่แมว” แต่เป็นมนุษย์ผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ด้วยรูปร่างลักษณะของคิตตี้ที่คล้ายกับแมว ก็ขอยกมาเอาใจทาสแมวใบบทความนี้ด้วยก็แล้วกัน

2.Doraemon

ถัดมายังคงอยู่กันที่แมวญี่ปุ่นกับแมวฟ้าโดราเอมอน ความเป็นมาของโดเรมอน แท้จริงแล้วเป็นหุ่นยนต์แมวที่ถูกผลิตออกมาจากโรงงานมิทซึชิบะ รูปร่างของโดเรมอนเป็นแมวไม่มีหู มีกระเป๋าหน้าท้อง เป็นกระเป๋าวิเศษ สามารถเอาของวิเศษต่างๆ ออกมาใช้งานได้ ซึ่งโดยส่วนมากก็ถูกเอามาใช้เพื่อช่วยเหลือโนบิตะ และโนบิตะก็มักจะทำเสียหายอยู่เสมอ ตามมาด้วยปัญหาต่างๆ นิสัยของโดเรมอนคือใจดีและเป็นมิตร แต่ขี้ลืม และงี่เง่านิดหน่อย ในด้านความสามารถพิเศษของโดเรมอน นอกจากจะเอาของวิเศษออกมาจากกระเป๋าหน้าท้องได้ ยังสามารถกินโดรายากิกองเท่าภูเขาได้ แถมยังใช้หัวพังถังแก๊สได้ด้วย 

3.แมวจี้ (Chi’s)

อีกหนึ่งตัวละครสมมติที่ชัดเจนว่าเป็นแมว มีสีขาวเทาลายสลิด ตาโตมาก มักมีใบหน้าร่าเริง ในเนื้อเรื่องแมวจี้อาศัยอยู่กับครอบครัวยามาดะ ภายในอพาร์ตเมนท์ที่ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ นิสัยส่วนตัวของแมวจี้ คือกินและนอน และกลัวสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่า แถมยังกลัวเสียงฟ้าผ่าด้วย แมวจี้มีพฤติกรรมที่เหมือนแมวทั่วๆ ไป ที่ทาสแมวหลายๆ คนก็คงรู้ดีว่าเป็นยังไง เนื่องจากว่าแมวจี้เป้นตัวละครสมมติที่จำลองมาจากแมวทั่วๆ ไป 

4.Garfield

การ์ฟิลเป็นตัวละครอีกหนึ่งตัวที่เป็นแมว คราวนี้มาจากฝั่งยุโรปบ้าง เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ใครหลายคนชื่นชอบ เอกลักษณ์ที่ชัดเจนที่สุดคือการเป็น “แมวส้ม” เพราะมีขนสีส้มทั่วทั้งร่าง รูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์แถมยังมีน้ำหนักเกินอีกต่างหาก นิสัยส่วนตัวของการ์ฟิล คือขี้เกียจและตะกละ ของโปรดของการ์ฟิลคือลาซานญ่า พิซซ่า และไอศกรีม แต่เรื่องของนิสัยการ์ฟิลยังมีอีกเรื่องคือความมั่นใจในตัวเองที่ค่อนข้างสูง 

5.Tom – cat

ทอมแคทจากการ์ตูนเรื่องทอมแอนด์เจอรี่ แมวขนสีเทาและมีสีขาวที่ปลายเท้าและปลายหาง ดวงตาสีเหลือง เป็นคู่ปรับกับเจอร์รี่ หนูขนสีน้ำตาลประจำบ้าน นอกจากเจอร์รี่แล้ว ทอมก็ยังชอบรังแกสัตว์เล็กอื่นๆ ด้วย รวมถึงสัตว์ที่อ่อนแอกว่า ดูเหมือนจะเป็นอันธพาล แต่ก็มีอารมณ์ที่อ่อนไหวในบางครั้ง ทั้งยังมีความรับผิดชอบสูงทีเดียว แม้จะเป็นคู่ปรับตลอดกาลกับเจอร์รี่ แต่ก็มีหลายครั้งที่ทอมพยายามจะสงบศึกและเป็นมิตรกับเจอร์รี่ แต่สุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็ยังคงเป็นคู่ปรับกัน และนั่นก็คือเอกลักษณ์ของตัวละครที่พวกเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

6.Felix the Cat

อีกหนึ่งตัวละครแมว เอาใจทาสแมว เกิดเมื่อปี 1919 ปรากฎตัวครั้งแรกในภาพยนตร์การ์ตูน Feline Follies ซึ่งเป็นภาพยนตร์เงียบ เล่าด้วยภาพวาดแอนิเมชั่นพร้อมกับตัวหนังสือบรรยายในกล่องคำพูด ลักษณะรูปร่างของเฟลิกซ์ มีลักษณะขนสีดำ หน้าขาว ใบหน้ากลมมน ดวงตากลมโต โดยทั่วไปหน้าตาของเฟลิซ์จะมีสีหน้าที่ดูร่าเริง และเป็นที่รู้จักในฐานะของตัวละครตลก 

7.Nyarth 

จาก Pokemon อีกหนึ่งตัวละครที่เป็นแมว ลักษณะพิเศษคือปลายหางม้วน เดินสองขาได้และพูดภาษามนุษย์ได้ ความเป็นมาของเนียส เดิมทีเป็นโปเกม่อนกำพร้าถูกทิ้งเอาไว้โดดเดี่ยวในเมืองหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางไปยังเมืองฮอลลีวู้ด เพราะคิดว่าที่นั่นจะทำให้ชีวิตดีขึ้น แต่เมื่อไปถึงจึงได้พบว่าคนในเมืองนั้นก็มองเนียสเป็นเพียงโปเกม่อนจรจัดเท่านั้น ภายหลังเนียสได้ไปตกหลุมรักกับกับเนียสสาวชื่อว่า Madonnya โดยในตอนนั้น Madonnya บอกกับเนียสหนุ่มว่าถ้าอยากได้ความรักก็ให้กลายเป็นมนุษย์และต้องรวย จากนั้นมาเนียสจึงพยายามฝึกเดินสองขาและหัดพูดแบบมนุษย์ แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวังเพราะ Madonnya ก็ไม่ได้สนใจเขาอยู่ดี จากนั้นเนียสจึงเริ่มออกทำร้ายผู้คนเป็นต้นมา และเข้ากับแกงค์ Rocket 

8.Sylvester 

ปิดท้ายด้วยซิลเวสเตอร์ แมวขนสีดำ มีปลายเท้าและท้อง รวมถึงบริเวณปากที่เป็นสีขาว เกิดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 1945 มีนิสัยซุกซนและเป็นจอมวางแผน สิ่งที่ต้องการคือกินได้กินนกทวีตตี้ แต่ก็ไม่เคยทำสำเร็จ และทุกครั้งที่ทำพลาด ซิลเวสเตอร์จะอุทานออกมาว่า “Sufferin’ Succotash !”

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเหล่าตัวละครสมมติที่เป็นแมว ซึ่งต่างก็มีบทบาทที่ไม่เหมือนกัน และทุกตัวละครล้วนมีอุปนิสัยส่วนตัว และมีเสน่ห์เฉพาะตัว เชื่อว่าตัวละครเหล่านี้ คงมีขวัญใจทาสแมวหลายๆ คนอยู่บ้าง หรือไม่เรื่องราวเหล่านี้ ก็อาจจะทำให้ทาสแมวหรือคอการ์ตูนทั่วๆ ไป นึกอยากไปหาดูการ์ตูนเก่าๆ เพื่อย้อนวัยเด็กกันแล้วใช่ไหมล่ะ

ในโลก Comic มีตัวละครหลากหลายที่ล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์ของตัวเองที่แตกต่างกันออกไป มีภูมิหลัง เรื่องเล่า ตำนานต่างๆ มีบุคลิกลักษณะที่น่าสนใจ โดยในบทความนี้เราจะมาพูดถึงตัวละครนามว่า “Groot” หนึ่งในจักรวาล Marvel ที่มีความน่าสนใจหลายอย่าง ไม่ว่าจะด้วยบุคลิกลักษณะ หน้าตาน่ารักใสๆ แบ๊วๆ ของเขา ไปจนถึงความสามารถที่เกินคาด ทั้งยังมีความเป็นฮีโร่ในแบบฉบับของตัวเองอีกต่างหาก

ลักษณะของ Groot 

ก่อนอื่นจะขออธิบายลักษณะโดยรวมของ Groot กันก่อน ซึ่งเป็นเหมือนต้นไม้ หุ้มร่างไปด้วยเปลือกไม้สีน้ำตาล บนยอดของศีรษะ Groot เหมือนลำต้นที่หักเป็นรอยแตก มีแขนและขา ทั้งยังมี ตา จมูก ปาก เดินได้ เคลื่อนไหวไปไหนมาไหนได้ แถมยังพูดได้ด้วย แต่ Groot จะพูดเป็นแค่ 3 คำ คือ I AM GROOT !! และถึงแม้ Groot จะเหมือนต้นไม้ แต่เรามักจะเห็นว่า Groot ไม่มีใบไม้ แม้ว่าอาจจะมีโมเดล Groot บางตัว มีใบไม้ให้เห็น แต่โดยปกติแล้ว หากเป็นภาพวาดในหนังสือการ์ตูน หรือในภาพยนต์ก็แล้วแต่ เรามักจะเห็นว่า Groot เป็นต้นไม้ไม่มีใบ ในส่วนของเพศนั้น Groot เป็นเพศชาย

ความจริงแล้ว Groot เป็นมนุษย์ต่างดาว ที่มีร่างคล้ายต้นไม้ หรือเป็นสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่อาศัยอยู่บนดาว Planet X (แพลเน็ต เอ็กซ์) แต่ภายหลังก็ถูกเนรเทศออกมาจากดาวนั้น โดย ARBOR MASTER (อาเบอร์ มาสเตอร์) ผู้นำแห่งดาว Planet X 

เอกลักษณ์ของ Groot 

Groot ก็เป็นตัวละครหนึ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยลักษณะและพฤติกรรมต่างๆ รวมถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ Groot โดยเรื่องแรกเลยที่ถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมากที่สุดของ Groot ก็คือการที่ Groot พูดได้แค่ 3 คำว่า I AM GROOT สิ่งนี้เกิดขึ้นจากลักษณะเฉพาะตัวของ Groot ที่มีลำคอที่แข็ง เพราะร่างกายของ Groot ทำจากไม้ ทำให้ Groot พูดได้แค่ 3 คำ และการที่ผู้อื่นต้องสื่อสารกับ Groot จะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากลำบาก เพราะ Groot พูดได้แค่นั้นจริงๆ 

นอกจากนี้ก็คือร่างกายของ Groot ที่ทำจากไม้ทั้งร่าง แต่มีแขนขา ใบหน้ามีตา จมูก ปาก เคลื่อนไหวได้ มีความแข็งแรงทนทานค่อนข้างมาก จากการสร้างเกราะต้นไม้หลายชั้น จนกระทั่งสามารถป้องกันอาวุธธรรมดาได้ เช่น มีด ดาบ ปืน รวมถึงปืนไฟ ด้านลักษณะนิสัยของ Groot จะค่อนข้างอ่อนโยน และรักสันโดษ ชอบทำตัวแปลกแยกจากเผ่าพันธุ์ต้นไม้ด้วยกัน แล้วไปอยู่กับพวกกระรอกมากกว่า 

ความสามารถของ Groot 

แม้จะมองผิวเผินดูแบ๊ว น่ารักใสๆ แต่ความสามารถของ Groot เรียกได้ว่าไม่กระรอกเลย และ Groot เองก็สามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตให้ตายได้ด้วย ถ้ารู้สึกไม่ชอบใจ แต่เป็นไปในทางปกป้องผู้อื่นมากกว่า เรียกได้ว่าก็ยังเป็นฮีโร่อยู่ ในส่วนของความสามารถนั้น คือการ “ดูดซับไม้” ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า Groot มีแสงแดดและปุ๋ยเป็นอาหาร ก็เหมือนกับต้นไม้ทั่วไป ซึ่ง Groot จะพิเศษกว่าต้นไม้ทั่วไป คือสามารถดูดซับไม้ได้ กินไม้เป็นอาหาร และทำให้เกิดการสร้าง “เกราะไม้” ขึ้น ยิ่งดูดซับไม้มากเท่าไร เกราะไม้ในตัว Groot ก็ยิ่งหนามากขึ้นเท่านั้น ความหนาเกิดขึ้นจากเกราะไม้ที่ก่อตัวขึ้นหลายๆ ชั้น จนกระทั่งสามารถป้องกันอาวุธหลายอย่างได้ เช่น มีด ปืน ดาบ ปืนไฟ เป็นต้น 

นอกจากการสร้างเกราะต้นไม้และกลายเป็นกำบังอาวุธต่างๆ ได้แล้ว Groot ยังสามารถแตกกิ่งก้านสาขาได้ ซึ่งกิ่งก้านเหล่านนี้ยังช่วย “เพิ่มการโจมตี” ได้ด้วย ทำให้ Groot สามารถสวมบทบาทนักฆ่าได้ในบางครั้งนั่นเอง และ Groot สามารถหยุดการเคลื่อนไหวได้แบบฉับพลัน ถือเป็นความสามารถเฉพาะตัวของ Groot 

เรื่องเล่าเกี่ยวกับ Groot 

Groot เป็นสิ่งที่มีชีวิตหนึ่งบนดาว Planet X จัดอยู่ในเผ่าพันธุ์ต้นไม้ และอยู่ร่วมกันกับกระรอกบนดาวนั้น โดย Groot จะมีนิสัยรักสันโดษ ไม่ค่อยเข้าพวก อีกทั้งยังมีจิตใจที่อ่อนโยน ไม่ค่อยชอบอยู่ร่วมกันกับบรรดาสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์เดียวกัน แต่ชอบที่จะอยู่กับพวกกระรอกมากกว่า ครั้งหนึ่งเมื่อ Groot เห็นกระรอกกำลังถูกพวกวัยรุ่นที่เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันทำร้าย จึงรู้สึกไม่ชอบใจ และทำการโจมตีวัยรุ่นพวกนั้นไป ด้วยพละกำลังของ Groot ที่มีมากกว่าวัยรุ่นพวกนั้นหลายเท่านั้น จึงสามารถต่อสู้ชนะอย่างง่ายดาย

แต่เหตุการณ์มันไม่ได้จบแค่นั้น เพราะมันทำให้วัยรุ่นเหล่านั้นไม่พอใจ และกลับมารังแกเหล่ากระรอกอีก ขณเดียวกัน Groot ก็ได้กลายเป็นที่รักของกระรอกไปแล้ว ครั้นเมื่อกระรอกถูกวัยรุ่นกลับมาทำร้ายอีก คราวนี้ Groot ถึงกับสติแตกและอาละวาดออกมาด้วยการโจมตีวัยรุ่นพวกนั้นอย่างรุนแรง ถึงกับสวมบทบาทนักฆ่าและทำให้วัยรุ่นเผ่าพันธุ์เดียวกันต้องตายไปถึง 3 คนด้วยกัน ทำให้ครั้งนั้น Groot ถูก ARBOR MASTER เนรเทศออกมาจากดาว Planet X และถูกบังคับให้ท่องจักรวาล กระทั่งไปเจอกับ Rocket Raccoon และกลายเป็นคู่หูกัน 

ความเป็นมาของ Groot 

ปรากฏตัวครั้งแรกใน Tales to Astonish #13 (พฤศจิกายน 1960) ในตอนนั้น Groot ไม่ใช่ฮีโร่ ตรงกันข้ามยังเป็นผู้รุกราน ที่พยายามจะจับมนุษย์ไปทดลอง อีกทั้งยังเคยเป็นหนึ่งในตัวละครปีศาจในการ์ตูนสยองขวัญอีกด้วย 

แต่หลังจากนั้น Groot ก็ถูกแนะนำอีกครั้งในฐานะฮีโร่ เมื่อปี 2006 และปรากฏตัวในหนังสือการ์ตูนแบบครอสโอเวอร์เรื่อง Annihilation conquest กระทั่งมาปรากฏในภาพยนต์เรื่อง Guardians of the Galaxy โดยที่ปัจจุบัน Groot ถือเป็นตัวละครที่ดีตัวหนึ่ง แม้จะเคยมีเรื่องเล่าในมุมมืดอยู่บ้างก็ตาม 

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวของตัวละครนามว่า Groot อีกหนึ่งตัวที่มีเอกลักษณ์และเรื่องเล่าที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะด้วยหน้าตาแบ๊วๆ ใสๆ ทำให้หลายๆ คนหลงใหล จนต้องไปหาซื้อโมเดลมาสะสมเป็นของรักของหวง หรืออาจจะเป็นเรื่องของความแข็งแกร่งและกล้าหาญ ทั้งยังมีนิสัยใจคอที่อ่อนโยน ปกป้องผู้ที่อ่อนแอจากการถูกรังแก ก็อาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ Groot นั้นโดดเด่นขึ้นมา สำหรับแฟนการ์ตูนหรือแฟน Groot บางราย อาจเลือกให้เป็นตัวละครที่แทนเป็นสัญลักษณ์ของตัวเองไปเลยก็ได้ และไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ ก็ขอฝาก Groot ไว้ในอ้อมใจคอการ์ตูนหลายๆ คนด้วยแล้วกัน

ถ้าช่วงนี้เจอสถานการณ์บ้านเมือง เศรษฐกิจ หรือโรคระบาดเข้าไป จนทำเอานอยด์ไป …..

บทความนี้ เราขอชวนมาสร้างความสุข สร้างรอยยิ้ม ผ่านความรู้สึกแบบหวนลำรึกอดีตจากตัวการ์ตูนของช่อง Cartoon Network ที่เคยโด่งดังเมื่อหลายปีก่อนกันดีกว่าค่ะ เพราะเชื่อเลยว่า ผู้อ่านหลาย ๆ คนจะต้องคิดถึงตัวการ์ตูนสุดป่วนแสนน่ารักเหล่านี้อยู่ไม่น้อย

Cow and Chicken ง้องแง้งกับเงอะงะ

ฉายครั้งแรกในปี ค.ศ. 1997 ถึงช่วงปี 1999 ตัวการ์ตูนที่ชื่อไทยช่างไม่สอดคล้องกับชื่อภาษาอังกฤษอย่าง “ง้องแง้งกับเงอะงะ” คือหนึ่งในการ์ตูนโปรดของเด็ก ๆ ยุคนั้น เป็นเรื่องราวมิตรภาพของสองพี่น้องที่ดูไปกันไม่ได้ แต่กลับรักใคร่กลมเกลียว เนื้อหากล่าวถึงเรื่องราวการผจญภัยของสองพี่น้องไก่และวัว ที่ชอบไปเล่นหรือทำอะไรพิเรนท์ ๆ จนอีกฝ่ายต้องเข้ามาคอยช่วยเหลือกันและกัน

แม้เนื้อหาจะดูเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง (ไก่กับวัวไม่มีทางเป็นพี่น้องกันได้) แต่สาระที่แฝงไว้ในความไร้สาระของตัวละครจากช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์คสองตัวนี้ กลับช่วยปลูกฝังเด็ก ๆ ในยุคนั้น หรือผู้ใหญ่เราในยุคนี้ ให้มองข้ามมองผ่านความแตกต่างของรูปลักษณ์หน้าตาชาติพันธุ์นั่นเอง เพราะเห็นไม๊? แม้ว่าไก่กับวัวไม่มีทางเป็นพี่น้องกันได้จริง ๆ แต่ง้องแง้งกับเงอะงะรักกันมาก ๆ นะคะ

Dexter’s Laboratory ห้องทดลองของเด็กซ์เตอร์

ฉายผ่านช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์คในช่วง ปี 2001-2003 บอกเล่าเรื่องราวของห้องทดลองของเด็กอัจฉริยะชื่อว่าเด็กซ์เตอร์ ผู้มีสติปัญญาเหนือเด็กทั่วไป และพี่สาว ดีดี้ ผู้ร่าเริงที่คอยปั่นป่วนห้องทดลองของเด็กซ์เตอร์อยู่เป็นประจำ เนื้อเรื่องหลักของการ์ตูนมักเริ่มต้นจากเด็กซ์เตอร์มีแผนการสร้างสิ่งประดิษฐ์บางอย่าง แต่มีดีดี้มาคอยปั่นป่วนและรบกวน นำไปสู่ความป่วนและความฮา จนในที่สุดเราก็มักได้เห็นมุมเด็ก ๆ ของเด็กซ์เตอร์ ที่แม้จะดู โต ดูเป็นผู้ใหญ่ ที่สำคัญคือเป็นเด็กอัจฉริยะ แต่ลึกๆ แล้วเขาก็ยังเป็นเด็กผู้ชาย ที่รักพ่อแม่ รักพี่สาว และยังต้องการความรักความอบอุ่นจากคนในครอบครัวอยู่นั่นเอง

The Flintstones มนุษย์หินฟลิ้นสโตน

เชื่อว่าเด็ก ๆ ยุค 90 หลายคนจะต้องรู้จักและคุ้นเคยกับ “มนุษย์หินฟลิ้นสโตน” แม้จริงๆ แล้วการ์ตูนเรื่องนี้จะเริ่มฉายมาตั้งแต่ช่วงยุค 70 แต่ตอนเรายังเด็ก ๆ ก็ยังได้ดูเรื่องราวของครอบครัวยุคหินสุดป่วนนี้กันอยู่ เรื่องราวของการ์ตูนมนุษย์

หินฟลิ้นสโตน บอกเราเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของครอบครัวที่ดูเหมือนยุคหิน แต่จริงๆ ไม่ใช่ยุคหินแต่อย่างใด เพราะมีการผสมผสานวัตถุ ความนิยม และวิถีชีวิตของคนในยุค 70 ลงไปแทบทั้งหมด เห็นได้จากการมีรถยนต์ มีสัตว์เลี้ยง ไปจนถึงโทรทัศน์ วิทยุต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ สะท้อนถึงสภาพสังคมทุนนิยมของอเมริกาในช่วงปี 1960

แต่ไม่ว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะใช้สภาพสังคมยุคไหนเป็นฉากหลัง ทว่าสิ่งที่พวกเราได้จากการดูการ์ตูนเรื่องนี้ คือความรู้สึกอิ่มเอมใจ เมื่อเห็นความอบอุ่น ความสนุก หรรษา ที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวนั่นเอง

Johnny Bravo จอห์นนี่ บราโว

อีกหนึ่งการ์ตูนเรื่องดังจากช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์ค ที่แค่ได้ยินชื่อก็นึกถึงความหล่อ คูล เท่ กล้ามโตของพ่อหนุ่มผมบลอนด์ นิสัยทะเล้น มั่นใจในตัวเองสุด ๆ ขึ้นมาทันที เนื้อเรื่องที่บอกเล่าก็คล้าย ๆ กับคาแรกเตอร์ของพี่จอห์นนี่เขาค่ะ คือการตะลุยจีบสาวโดยเชื่อว่าตัวเองมีเสน่ห์มากที่สุดในโลก และใช้วิธีการจีบสารพัดที่ไม่เคยได้ผล เพราะจอห์นนี่ไม่เคยจีบสาวติดสักคน แต่แม้จะล้มเหลวสักกี่ครั้ง ทว่าจอห์นนี่ก็ไม่เคยเสียเซลฟ์หรือหมดความมั่นใจ และยังคงตะลุยจีบสาวกันต่อไป สิ่งที่ได้จากการดูการ์ตูนเรื่องนี้ก็คงมีที่สอนให้เด็ก ๆ เป็นคนมีความมั่นใจ ไม่เสียเซลฟ์อะไรง่าย ๆ นอกจากนั้นที่ได้ก็คงเป็นความตลกโปกฮาล้วน ๆ

The Powerpuff Girls เดอะพาวเวอร์พัฟเกิร์ล

ผู้ใหญ่ยุคนี้ ที่เคยเป็นเด็ก ๆ ในยุค 90 จะต้องเคยได้ยินเรื่องราวของ น้ำตาล เครื่องเทศ สารพัดของกุ๊กกิ๊ก เพราะนั่นคือแหล่งกำเนิดของสามพี่น้องจอมพลัง พาวเวอร์พัฟเกิร์ล ฮีโร่ในดวงใจของใครหลาย ๆ คน พาวเวอร์พัฟเกิร์ลเป็นเรื่องราวของการต่อสู่กับสัตว์ประหลาดป่วนเมือง ผสมผสานกับดราม่าประจำวันตามประสาสามสาวพี่น้องต่างบุคลิก ที่ไม่ว่าจะทะเลาะกัน หรืองอลกันอยู่ แต่เมื่อสัตว์ประหลาดมาเมื่อไหร่ ทั้งหมดจะแท็กทีมกันต่อสู้อย่างเก่งกาจ จนเอาชนะได้ทุกครั้งไป จึงเป็นการ์ตูนเด็กครบรส ที่มีทั้งความมันส์ ความกุ๊กกิ๊ก และแฝงแง่คิดเรื่องความสามัคคีในหมู่พี่น้องไว้ได้เป็นอย่างดี

Scooby Doo สกู้ปปี้ดู

ปิดท้ายกันด้วยการ์ตูนคลาสสิกเรื่องดังแห่งช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์คอย่างสกู้ปปี้ดู แม้จะฉายครั้งแรกตั้งแต่ปี 1969 ทว่า สกู้ปปี้ดูก็ยังคงความทันยุคทันสมัย มีเนื้อหาที่น่าสนใจเหมาะกับทุกเพศทุกวัย เนื้อเรื่องบอกเล่าการผจญภัยของสกู้ปปี้ แช็คกี้ เฟรด และเวลม่า ส่วนมากมักเกี่ยวกับการสืบหาต้นตอของสิ่งลี้ลับอธิบายไม่ได้ (ตอนเด็ก ๆ ดูไปก็คลุมโปงไปนะ) แต่ในท้ายที่สุดบรรดาสิ่งที่กลัวว่าเป็นผี หรือปีศาจก็กลายเป็น

คนทั้งนั้น นอกจากจะตื่นเต้น ตื่นใจ ระทึกขวัญแล้ว การ์ตูนเรื่องนี้ก็แฝงแง่คิดไว้ทุกครั้งว่า ไม่ต้องกลัวหรือกังวลอะไรไปล่วงหน้าก่อนหรอกนะ ท้ายที่สุด ทุกอย่างก็มีคำตอบของมันนั่นแหละ

บ้างก็ว่าทำให้บ้านรกรุงรัง สะสมฝุ่น บ้างก็ว่าเปลืองสตางค์ 

หลากหลายข้อครหาเกี่ยวกับการสะสมของเล่น ดูจะถูกยกขึ้นมาอ้างได้บ่อย ๆ จากเสียงของผู้คนมากมาย 

อย่างไรก็ดี บทความในวันนี้ เราขอเข้าข้างฝ่ายนักสะสมของเล่นตัวยงนะคะ
เพราะรู้ไหมว่า…. แม้การสะสมของเล่น หรือโมเดล ตุ๊กตา จะทำให้บ้านรกรุงรัง หรือว่าเปลืองสตางค์อยู่ก็จริง
แต่ประโยชน์ของ “การสะสมของเล่น” ก็มีอยู่ไม่น้อย แถม “ประโยชน์” แต่ละข้อนั้นล้วนมีความน่าสนใจ
จนเราอยากให้คุณได้ลองเปิดใจ อ่านดูตามนี้เลย

การสะสมของเล่นช่วยพัฒนาทักษะการช่างสังเกต 

หากที่ผ่านมาเป็นคนไม่ค่อยละเอียดถี่ถ้วน หรือตกหล่นในดีเทลนิด ๆ หน่อย ๆ อยู่เป็นประจำ ให้ลองหันมาสะสมของเล่นค่ะ นั่นก็เพราะสกิลหรือทักษะเด่นข้อสำคัญของ “นักสะสมของเล่นหรือโมเดลตุ๊กตา” คือทักษะด้านการสังเกตแบบลงรายละเอียดนั่นเอง

มือสะสมต้องมีทักษะการจับผิดของเล่น ของทำเลียนแบบเพื่อป้องกันการเสียเงินซื้อหรือสะสมสินค้าปลอม นักสะสมต้องมีทักษะการพิจารณาตำหนิ หรือข้อบ่งบอกรุ่น ยี่ห้อ ปีที่ผลิตของบรรดาของเล่นต่าง ๆ

ซึ่งทักษะเหล่านี้ของนักสะสมจะส่งผลให้คุณกลายเป็นคน “ช่างสังเกต” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
จากที่เคยพิจารณาอะไรไปแบบไว ๆ ผ่านไปแบบเร็วๆ ไม่ลงดีเทล หลังจากสะสมของเล่นไปสักพัก ให้คอยสังเกตดูรายละเอียดที่เขาว่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบรรดาสิ่งของรอบตัว รวมไปถึงเรื่องของการทำงาน ประกอบกิจการ และใช้ชีวิตประจำวัน คุณจะสามารถสังเกตเห็นได้ และกลายเป็นคนที่ลงดีเทล ทำงานได้อย่างรอบคอบ ละเอียดถี่ถ้วนขึ้นได้มาก ๆ ค่ะ

การสะสมของเล่นช่วยพัฒนาทักษะการจัดระบบ

เช่นเดียวกับการสะสมสิ่งของประเภทอื่น ๆ ทักษะการจัดระบบ หรือ Organization Skill คืออีกหนึ่งทักษะสำคัญของนักสะสมของเล่น เพื่อรู้จักวิธีการแยกประเภท คอลเล็กชั่น สี ขนาด รุ่น หรือยี่ห้อต่าง ๆ ซึ่งหากคุณสามารถนำทักษะที่ว่ามาปรับใช้กับการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ใช้เพื่อจัดแบ่งความสำคัญของงาน การเรียน หรือแม้แต่จัดแบ่งความสำคัญ ลำดับโปรเจคต่าง ๆ ย่อมสามารถช่วยให้คุณจัดการเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตได้ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน 

การสะสมของเล่นช่วยให้เรียนรู้วิธีการดูแลสิ่งของรอบตัว 

นักสะสมของเล่นมีหน้าที่สำคัญในการดูแลคอลเล็กชั่นของเล่นของตนให้ดูใหม่ สะอาดเอี่ยมและดูดีอยู่เสมอซึ่งขั้นตอนการดูแลของเล่นล้วนต้องอาศัยความละเอียดอ่อน ละเมียดละไมอยู่ไม่น้อย

ทั้งนี้ ถือว่าเป็นข้อดียิ่งนัก เพราะทักษะการจัดการของเล่นให้ดูคลีน น่าชมเชยตลอดเวลา จะส่งต่อเป็นนิสัยในการจัดการดูแลข้าวของชิ้นอื่น ๆ ได้ ดังนั้นแล้วหากคุณมีคนใกล้ตัวเป็นคนที่รักการสะสมของเล่นและโมเดล ตุ๊กตา ก็สามารถวางใจได้เลยค่ะว่าข้าวของชิ้นอื่น ๆ ของเขาเหล่านี้ จะได้รับการดูแลอย่างดี และแลดูสะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอด้วยเช่นกัน

การสะสมของเล่นช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ 

สำหรับนักสะสมจำนวนมาก การสะสมของเล่น มิใช่เรื่องที่เกี่ยวกับการสะสมเท่านั้น แต่คอลเล็กชั่นของสะสมของพวกเขา อาจเป็นบ่อเกิดของจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ที่จะเกิดขึ้นตามมา โดยรู้ไหมว่านักเขียนนิยายที่ประสบความสำเร็จ รวมไปผู้กำกับภาพยนตร์หลาย ๆ คนล้วนเริ่มต้นการสร้างสรรค์ผลงานสร้างเงิน สร้างอาชีพได้จากคอลเล็กชั่นของเล่นของตัวเองนะคะ

การสะสมของเล่นช่วยบรรเทาความเครียด 

การสะสมของเล่น แท้จริงก็คืองานอดิเรกประเภทหนึ่ง ซึ่งเราทราบกันดีว่า การใช้เวลาไปกับงานอดิเรก สามารถช่วยปลีกความคิด ความเครียดออกจากปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการเรียน การงานที่กำลังรุมเร้าจิตใจ  ซึ่งงานอดิเรกสามารถช่วยให้เราเปลี่ยนจุดโฟกัส จากสิ่งที่รบกวนจิตใจ มายังสิ่งที่รักและทำให้เราผ่อนคลายได้

ว่าแล้ว หากคุณกำลังเครียด และอยากผ่อนคลายจิตใจที่เหนื่อยล้า ให้ระลึกไว้เสมอว่าการสะสมของเล่น หรือการเลือกทำงานอดิเรกประเภทอื่น ๆ ที่ตัวเองชอบ คือวิธีง่าย ๆ ที่สามารถช่วยคุณระบายความเครียดที่ได้ผล

การสะสมของเล่นช่วยสร้างสังคมใหม่ ๆ

อาจจะมาในรูปแบบของชมรม สมาคม หรือในรูปของเพจเฟสบุค หรือกลุ่มในโลกออนไลน์สำหรับผู้ชื่นชอบสิ่งของหรือมีงานอดิเรกประเภทเดียวกัน การสะสมของเล่นจึงช่วยให้คุณได้มีสังคมใหม่ ๆ นอกเหนือไปจากสังคมเพื่อนในโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือในที่ทำงานได้นั่นเอง

โดยเพื่อนกลุ่มใหม่นี้ จะประกอบไปด้วยผู้คนที่สนใจในสิ่งเดียวกันกับคุณค่ะ ซึ่งคุณอาจพบเจอเพื่อนใหม่ เพื่อนสนิท ได้จากกลุ่มคนที่ชอบสะสมของเล่นเหมือนกันกับคุณ ว่าแล้ว หากอยากเปิดโลก หรือรู้จักผู้คนที่สามารถพูดคุยกันถูกอกถูกคอ การค้นพบงานอดิเรกที่ตนชื่นชอบ คือหนึ่งในหนทางเริ่มต้นสู่กลุ่มเพื่อนใหม่ๆ นะคะ

การสะสมของเล่นช่วยสร้างนิสัยการใช้จ่าย

ถือเป็นประโยชน์ด้านการเงินที่ส่งผลดีแก่ผู้คนทุกเพศ ทุกวัย เพราะการสะสมของเล่นล้วนต้องใช้สตางค์เพื่อซื้อ หรือแลกเปลี่ยนมาแทบทั้งสิ้น

ทั้งนี้ คอลเล็กชั่นของเล่นแต่ละชิ้นก็อาจมีราคาสูง เด็ก ๆ วัยเรียนที่อยากเพิ่มเติมไอเท็มเพื่อมาเสริมให้คอลเล็กชั่นของเล่นของตนครบถ้วน หรือสนใจโมเดลของเล่นชิ้นไหนเป็นพิเศษ ก็ต้องริเริ่มนิสัยการเก็บเงิน หรือหางานพิเศษทำเพิ่มเติมเพื่อสะสมสำหรับของเล่นที่ตนชื่นชอบ นอกจากนี้ ในหมู่นักสะสมวัยทำงาน ก็ต้องเรียนรู้วิธีที่จะบริหารเงิน ลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ ของตน เพื่อเก็บสะสมมาเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นประโยชน์ในด้านส่งเสริมนิสัยการใช้จ่ายแทบทั้งสิ้นค่ะ 

“มีที่มาจากช่างไม้ชาวเดนมาร์ก” 

“ความหมายของชื่อ หรือ Lego คือ LEG GODT ที่แปลว่า “Play Well” แปลเป็นไทยคือ เล่นได้ดี”

“ในปัจจุบัน LEGO เป็นของเล่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และมีอายุรุ่นปู่ ราว 80 ปีเศษ”

“ในวันคริสมาสต์ จะมีการขาย LEGO ได้จำนวน 28 ชุด ในทุก ๆ วินาที!!” 

และนี่คือบางส่วนของเรื่องราวอันน่าทึ่งของ “ของเล่น” ในดวงใจของเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ทั่วโลก…
หากคุณคือคนหนึ่งที่ชื่นชอบ หรือรู้สึกคุ้นเคยไปกับของเล่นชนิดนี้
วันนี้ เราลองมาดูประวัติ และเรื่องราวที่น่าสนใจเบื้องหลังความน่าทึ่งของ LEGO ของเล่นชื่อก้องโลกนี้กันค่ะ 

ต้นกำเนิด

ในช่วงปี ค.ศ. 1932 ณ เมือง บิลลุนด์ (Billund) ประเทศเดนมาร์ก ช่างไม้มืออาชีพนามว่า Ole Kirk Christiansen กำลังประสบปัญหาทางการเงิน
แม้จะเป็นช่างไม้ฝีมือระดับปรมาจารย์ ทว่าวิกฤติเศรษฐกิจทำให้ธุรกิจของคุณลุง Ole ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ดีวิกฤตครั้งนั้น ได้แปรเปลี่ยนเป็นโอกาสครั้งสำคัญ เพราะคุณลุง Ole ได้ผันตัวจากช่างไม้ มาเป็นนักประดิษฐ์สินค้าชนิดต่าง ๆ ทั้ง เครื่องใช้ภายในบ้าน บันได ที่รองรีดผ้า บรรดาเก้าอี้ตัวเล็ก ๆ สำหรับนั่งทำงานบ้าน รวมไปถึง “ของเล่นไม้”

แม้ในยุคเริ่มแรก ของเล่นไม้ของคุณลุง Ole จะไม่ได้มีหน้าตาเหมือนตัวต่อเลโก้ในปัจจุบัน แต่นั่นก็คือต้นกำเนิดของแบรนด์ดัง เพราะในปี ค.ศ. 1934 บริษัทของคุณลุง Ole ได้มีการจัดประกวดแข่งขันตั้งชื่อบริษัท และชื่อที่ชนะเลิศก็คือ LEGO ที่มีที่มาจากรากศัพท์ภาษาเดนมาร์กว่า LEG GODT ที่แปลว่า “Play Well” แปลเป็นไทยคือ เล่นได้ดี

ในขณะที่คำนี้นี่เอง ก็มีความหมายในภาษาลาตินว่า “I assemble” หรือ“I put together” แปลได้ว่า “ประกอบหรือวางเข้าด้วยกัน” ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของตัวต่อเลโก้ในยุคต่อมาอย่างที่เรารู้จักกันดีนั่นเองค่ะ 

นอกจากความโดดเด่นเรื่องคุณภาพ เล่นสนุก สมชื่อ “Play Well” แล้วนั้น ของเล่นของเลโก้ยังโดดเด่นที่สีสันฉูดฉาด สะดุดตา แม้ว่าการเคลือบสีลงบนของเล่นจะมีราคาแพง แต่บริษัทเลโก้ ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องของสีสันเหล่านี้มากอยู่ดี โดยการเคลือบสีของเลโก้จะต้องเคลือบให้ได้ถึง 3 ชั้น ซึ่งถือเป็นกรรมวิธีการผลิตของเล่นที่ไม่ธรรมดาในยุคนั้น และไม่มีใครทำกัน นับเป็นหนึ่งในกระบวนการผลิตที่ตรงกับคติของบริษัทว่า ของเล่นของที่นี่จะต้องดีที่สุดเท่านั้น ถึงจะดีพอ “Only the best is good enough”

อุปสรรคของธุรกิจ

ธุรกิจของเล่นของเลโก้ ดำเนินไปได้อย่างดี ของเล่นของบริษัทนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม อย่างไรก็ดี ทุก ๆ ธุรกิจล้วนมีปัญหา
แม้ของเล่นจะขายดิบขายดี ทว่าปัจจัยภายนอกอย่างเหตุการณ์ประท้วงรุนแรงในปี ค.ศ. 1942 ทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝัน
โรงงานของเลโก้ถูกเผาทำลายเรียบเป็นหน้ากอง 

แต่ก็นับเป็นโชคดีนะคะ ด้วยความไม่ยอมแพ้ของทั้งเจ้าของโรงงานและบรรดาลูกค้า โรงงานเล็ก ๆ ของบริษัทของเล่นที่ในเวลาต่อมาจะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก ได้ค่อย ๆ ฟื้นตัว ได้เริ่มสร้างโรงงานใหม่หลังจากนั้นในเวลาไม่นาน 

พลาสติกเปลี่ยนโลก

จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญเกิดขึ้นอีกครั้งในปี ค.ศ. 1947 เมื่อเลโก้ได้กลายเป็นบริษัทแรกในเดนมาร์กที่ซื้อเครื่องฉีดพลาสติกมาใช้ในกระบวนการผลิตของเล่นของบริษัท หลังจากนั้นภายในเวลาเพียง 2 ปี บริษัทเลโก้สามารถผลิตของเล่นพลาสติก และของเล่นไม้ออกมาได้ถึงกว่า 200 ชนิด ประกอบกับเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ยังคงติดค้างอยู่ในใจ ผู้บริหารรุ่นลูก อย่าง Godtfred Kirk Christiansen ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Junior Vice President ได้ตัดสินใจ ผลิตตัวต่อของเล่นจากวัสดุพลาสติก แทนวัสดุจากไม้เกือบทั้งหมดในเวลาต่อมา ซึ่งนั่นคือการเปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ของเล่นเลโก้ไปโดยสิ้นเชิง เพราะของเล่นพลาสติกผลิตง่ายกว่า ต้นทุนต่ำกว่า สามารถผลิตได้ในปริมาณมากเพื่อขายแก่ลูกค้าจำนวนเยอะขึ้น สร้างยอดขายสูงสุดแก่บริษัทนับตั้งแต่เคยเปิดมาเลยทีเดียว

หลังจากนั้น ในวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1954 บริษัทเลโก้ ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “LEGO Mursten” หรือ “LEGO Bricks” (ตัวต่อเลโก้) ผู้จำหน่ายของเล่นตัวต่อเลโก้พลาสติกอย่างที่เราคุ้นเคยกัน และได้จดทะเบียนจัดตั้งอย่างเป็นทางการ นับแต่นั้นเป็นต้นมา 

The Stud-and-Tube Coupling System เอกลักษณ์ชนะใจ

นอกเหนือจากความทนทาน สีสันสดใส เล่นสนุกแล้วนั้น เอกลักษณ์ที่ทำให้ตัวต่อเลโก้เข้ามาครองใจของเด็ก ๆ ทุกคนทั่วโลกได้คือ “ระบบการเชื่อมต่อด้วยปุ่มและท่อ” ซึ่งสิ่งนี้เลโก้เรียกว่า ” The Stud-and-Tube Coupling System” หรือระบบตัวต่อที่เราคุ้นเคยนั่นเองค่ะ

ในเริ่มแรกเลโก้ได้จำหน่ายของเล่นชุดที่เรียกว่า “Lego System of Play” ทั้งหมด 28  ชุด ประกอบไปด้วย อาคาร บ้าน ต้นไม้ รถยนต์ ป้ายสัญลักษณ์ ระบบจราจร โดยต่อมาก็ได้มีการคิดค้นระบบเชื่อมต่อด้วยปุ่มและท่อขึ้น โดยของเล่นของเลโก้จะเป็นตัวต่อที่มีปุ่ม และกระบอกคล้ายท่อ เพื่อให้สามารถนำตัวต่อแต่ละชิ้นมาต่อเข้าด้วยกันได้อย่างไม่จำกัด กลายเป็นระบบที่ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการของเล่น และมีบทบาทในการปฏิวัติวิธีการละเล่นของเล่นทั่วโลกไปโดยสิ้นเชิง

ระบบ System of Play และระบบเชื่อมต่อด้วยปุ่มและท่อสามารถครองใจเด็ก ๆ ทุกคนที่ได้มีโอกาสสัมผัสเลโก้ เพราะระบบนี้เปิดโอกาสให้พวกเขาได้ใช้จินตนาการของตัวเองแต่งแต้มสร้างสรรค์การละเล่น สร้างชิ้นงาน แบบไม่ต้องถูกจำกัดอยู่บนระบบระเบียบที่วางไว้เฉพาะแต่ในคู่มือเท่านั้น ซึ่งระบบที่ว่าก็ได้นำเลโก้สู่ความสำเร็จทั่วโลก อย่างที่ไม่เคยมีมา และยังคงอยู่ ยืนหยัดเพื่อแต่งแต้มความคิดสร้างสรรค์ของเด็กทุกคน ตราบจนปัจจุบัน 

และนี่คือเรื่องราวของเลโก้ และประวัติการผลิตของเล่นที่เปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละยุค  ที่ยังคงดำเนินการสืบทอดมาแม้ล่วงเวลามาแล้วกว่า 80 ปี
ซึ่งเราก็มั่นใจค่ะว่าแม้เวลาจะผ่านล่วงเลยไปเพียงใด หรือมีเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์สมาร์ทโฟนเข้ามาแทนที่ของเล่นแบบเดิม ๆ หลาย ๆ  ชิ้น ทว่า “เลโก้” ก็จะต้องยังคงอยู่ เป็นของขวัญ เป็นรางวัล และเป็นของเล่นเพื่อเสริมจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์สำหรับทุก ๆ คน
ได้ต่อไปเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน 

เมื่อพูดถึง Harley Quinn ก็นับเป็นอีกหนึ่งตัวละครในจักรวาล DC ที่ใครหลายๆ คนชื่นชอบและสนใจเรื่องราวของเธออยู่เยอะเหมือนกัน ในหลายๆ แง่มุมที่ถูกนำเสนอในโลกการ์ตูน และมุมหนึ่งที่น่าสนใจก็คือเรื่องราวความรักของฮาลี่ ควินท์ ที่น่าติดตามไม่น้อย ครั้งนี้ทางบทความก็เลยเลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวความรักของฮาลี่ และความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับตัวละครอื่นๆ ได้แก่ 

โจ๊กเกอร์

อันดับ 1 ตัวละครที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ถ้าหากจะพูดถึงเรื่องราวความรัก หรือความสัมพันธ์เชิงชู้สาวของฮาลี่ ก็คือโจ๊กเกอร์ ผู้ชายที่ฮาลี่ตกหลุมรักแบบหัวปักหัวปำ ทั้งยังทำให้เธอกลายเป็นบ้า ชอบไล่ฆ่าคนเหมือนกันกับเขา โจ๊กเกอร์เป็นแฟนของฮาลี่แบบที่ทุกคนในเมือง Gotham ต่างก็รู้ดี โดยคู่รักคู่นี้ถือเป็นคู่ที่บ้าบิ่น มีความโรคจิตอยู่ในตัวเอง ชอบสร้างเรื่องราวอาชญากรรมเป็นพิเศษ ที่สำคัญโจ๊กเกอร์ยังเป็นคนที่เปลี่ยนจิตแพทย์อย่างฮาลีน ควินเซลล์ ให้กลายเป็นอาชญากรสาว ฮาลี่ ควินท์ โจ๊กเกอร์มีอิทธิพลต่อฮาลี่อย่างมาก เธอยอมทำตามที่เขาต้องการแทบทุกอย่าง อีกทั้งฮาลี่ยังถูกโจ๊กเกอร์ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจอยู่บ่อยครั้ง

พอยซันไอวี่

หากพูดถึงรายชื่อตัวละครที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับฮาลี่ พอยซันไอวี่ถือว่ามีความโดดเด่นพอตัว และก็เป็นคู่ที่ใครหลายๆ คนจิ้นให้รักกันนานๆ โดยเรื่องราวของคู่นี้ จะเห็นได้ถึงความห่วงใยที่พอยซันไอวี่มีให้ฮาลี่อยู่เสมอ อีกทั้งยังมักจะเตือนสติฮาลี่ที่ถูกคนรักอย่างโจ๊กเกอร์เอารัดเอาเปรียบและทำร้ายจิตใจอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีการยืนยันจากทางฝั่งผู้เขียน Jimmy Palmiotti กับ Amanda Conner ที่ได้ออกตอบคำถามแฟนๆ ผ่าน Twitter ว่าทั้งคู่เป็นคนรักกันจริงๆ ทำเอาแฟนการ์ตูนหลายคนฟินไปตามๆ กัน

บรูซ เวย์น

แม้ว่าบรูซ เวย์นก็คือแบทแมน และก็เป็นศัตรูตัวฉกาจของโจ๊กเกอร์ รวมถึงฮาลี่ ควินท์ด้วย แต่ฮาลี่ก็เคยมีฉากกุ๊กกิ๊กกับบรูซ เวย์นเหมือนกัน จากในหนังสือที่มีชื่อว่า Harley Quinn Valentines Day Special เล่มที่ 1 มีเนื้อหาที่ฮาลี่ได้ไปออกเดทกับบรูซ เวย์ จากการชนะการประมูล ที่บรูซ เวย์เอาตัวเองมาประมูลและตั้งเงื่อนไขว่าถ้าหากใครเป็นผู้ชนะ จะได้ออกเดทกับเขา ซึ่งคนที่ชนะก็คือฮาลี่ ทำให้เธอได้มีโอกาสออกเดทกับบรูซ เวย์ โดยทางฝั่งบรูซ เวย์รู้ดีว่าเธอคือฮาลี่ ควินท์ แต่ฝั่งฮาลี่กลับไม่รู้ว่าบรูซ เวย์คือแบทแมน ระหว่างการออกเดท ยังมีเรื่องของการถูกลักพาตัวของบรูซ เวย์น และฮาลี่ก็ตามไปช่วยเขาด้วย ก่อนที่เขาสองคนจะได้ออกเดทกันอย่างมีความสุขในตอนท้าย

ไนท์วิง

อีกหนึ่งตัวละครที่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับฮาลี่ เมื่อครั้งที่ทั้งสองต่อสู้กัน แต่แล้วไนท์วิงค์ก็พลาดท่าให้กับกลอุบายของฮาลี่ ทำให้ฮาลี่จับตัวเขาไปและพาเขาไปขึงกับเตียง แต่ภายหลังฮาลี่กลับเปลี่ยนใจ ไม่ทรมานไนท์วิงค์และเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอย่างอื่นแทน เป็นฉากเลิฟซีนหนึ่งฉากที่แสดงถึงความสัมพันธ์เชิงชู้สาวของฮาลี่และไนท์วิง

เดดช็อต

วายร้ายที่โดดเด่นในเรื่องของการยิงปืนที่แม่นยำ เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ถูกรวมอยู่ในรายชื่อของผู้ที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับฮาลี่ หากใครได้ดูภาพยนต์เรื่อง Suicide squad ก็คงจะเห็นซีนที่ฮาลี่แอบโปรยเสน่ห์ให้เดดช็อตอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าหากใครที่เคยรับชมผ่านเวอร์ชั่นการ์ตูน ก็จะได้เห็นความสัมพันธ์ของทั้งสองที่ชัดเจนยิ่งกว่า มีหลายครั้งที่ฮาลี่และเดดช็อตมีซีนโรแมนติกร่วมกัน อีกทั้งยังคอยช่วยเหลือกันในยามคับขัน  โดยเดดช็อตเปรียบเสมือนคนคั่นเวลาของฮาลี่ ในเวลาที่เธอมีปัญหากับโจ๊กเกอร์ หรือในยามที่ต้องห่างเหินกัน

โลโบ

นักล่าเงินรางวัล ที่มีความอึดและแข็งแกร่ง และเป็นอีกตัวละครที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับฮาลี่ โดยความสัมพันธ์ของทั้งสอง ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น ทั้งยังทำให้พวกเขาไปติดเกาะอยู่ด้วยกัน ต้องร่วมเป็นร่วมตายกันในช่วงเวลาหนึ่ง และหลังจากที่เหตุการณ์นั้นผ่านพ้นไป ความรักของเขาทั้งสองก็ก่อตัวขึ้นมา 

เรดทู

ตัวละครนี้อาจจะไม่เชิงว่ามีความสัมพันธ์ชู้สาวร่วมกัน แต่เรดทูก็เป็นตัวละครที่คลั่งไคล้ฮาลี่มาก จนถึงขั้นบังคับให้ฮาลี่แต่งงานด้วย ซึ่งแน่นอนว่าฮาลี่ไม่ได้ตอบตกลง และยังรู้สึกรำคาญเขาอีกต่างหาก ฮาลี่ไม่ได้มีใจให้เขา แต่ด้วยความจริงใจที่เขามีให้ และคออยช่วยเหลือฮาลี่อยู่เสมอ ก็ทำให้ฮาลี่รู้สึกว่าเรดทูก็เป็นเพื่อนที่ดีคนนึง แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้คบกัน

ทั้งหมดนี้ก็เป็นรายชื่อตัวละครที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับฮาลี่ที่คัดมาให้อ่านกันเพลินๆ ส่วนใครจะไปหาซีนโรแมนติกของตัวละครดังกล่าวกับฮาลี่ดูเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความฟินก็แล้วแต่ สุดท้ายนี้ฮาลี่ก็ยังมีความพราวเสน่ห์ในตัวเธออยู่เสมอ ถึงแม้เธอจะเป็นวายร้ายจอมซ่า เพราะไม่ใช่แค่ตัวละครเท่านั้นที่มีใจให้เธอ แต่แฟนคอมิคเองก็ยังหลงรักเธอกันอีกมาก

คอ Comic ทั้งหลาย หากพูดถึงจักรวาล DC ก็จะมีตัวละครที่น่าสนใจอยู่หลายตัวด้วยกัน ไม่ว่าจะด้วยบทบาท ความสามารถ ความเก่ง หรือแม้แต่ความสวย ที่มีอยู่ในตัวละครหญิงทั้งหลาย ก็ถือเป็นความน่าสนใจ และทำให้ตัวละครกลายเป็นที่ชื่นชอบของคนดู ครั้งนี้ก็จะเป็นการพูดถึงตัวละครหญิงในจักรวาล DC เน้นตัวละครที่คนมักพูดถึงบ่อยๆ จะมีใครบ้างนั้น ไปอ่านพร้อมๆ กันได้เลย

Poison Ivy

เปิดด้วยตัวละครสาวสวยแห่งจักรวาล DC ชื่อเดิมของเธอคือ Pamela Lillian Isley (พาเมล่า ลิเลียด์ ไอสลีย์) ประกอบอาชีพเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านพืชและสิ่งแวดล้อม ครั้งหนึ่งเธอได้นำเอาสารเคมีที่เธอสังเคราะห์ขึ้นมา ผสมกับยีนส์ของพืชและเลือดของเธอเอง ในการสร้างพืชสายพันธุ์ใหม่ และทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นภายในห้องแลป ครั้งนั้นเธอได้รับสารเคมีเข้าไปแต่กลับรอดชีวิตมาได้ และสิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือร่างกายของเธอที่เต็มไปด้วยพิษ เธอสามารถฆ่าคนได้ด้วยการจูบ ว่ากันว่านั่นเป็นจูบเพชรฆาต แต่บางครั้งเธอก็ไม่ได้จูบเพื่อฆ่าเสมอไป จะเห็นว่าหลายๆ ครั้งที่เธอจูบกับ Batman แต่ Batman ก็ไม่ได้เป็นอะไร เป้าหมายสำคัญของเธอคือการปกป้องสิ่งแวดล้อม เพราะเธอรักต้นไม้และดอกไม้เป็นที่สุด จัดเป็นตัวร้ายแต่ก็เคยถูกจัดให้เป็นฮีโร่สาว 

Catwoman

ต่อกันด้วยวายร้ายในชุดแมวเหมียวสุดเซ็กซี่ Catwoman หญิงสาวผู้ลึกลับ ปราดเปรียว และแข็งแกร่ง มีความสามารถพิเศษในการย่องเบาขั้นเทพ ขโมยเก่งและแนบเนียนที่สุด จากการขโมยครั้งแรกที่เป็นการขโมยของของตัวเองกลับมาจากสามีที่เอาเครื่องเพชรและสิ่งของของเธอไป ครั้งนั้นทำให้ตัวเธอเองคลั่งไคล้การขโมย นำไปสู่การก่ออาชญากรรมเรื่อยมา ภายใต้ชื่อ Catwoman โดยชื่อเดิมของเธอคือ Selina Kyle (เซลิน่า ไคลย์) เป็นอีกตัวละครหญิง ที่เป็นทั้งฮีโร่และเป็นทั้งวายร้าย บทบาทที่สำคัญอีกอย่างคือการเป็นคนรักของ Batman แต่บางครั้งสิ่งร้ายๆ ที่เธอทำ ก็ทำให้ Batman รู้สึกชังเธอเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นหลายๆ สิ่งที่เธอทำ ก็เป็นการทำเพื่อ Batman 

Harley Quinn

อีกหนึ่งดาวร้ายจาก DC ตัวละครหญิงสาวที่สวยและเซ็กซี่ ซึ่งเป็นคนรักของ Joker เดิมทีมีนามว่า Harleen Quinzel (ฮาร์ลีน ควินเซล) ประกอบอาชีพจิตแพทย์ กระทั่งครั้งหนึ่งที่ Joker ถูกตำรวจมารักษาตัวกับเธอ และครั้งนั้นเขาได้แต่งเรื่องโกหกและเล่าเรื่องราวน่าสงสารให้ Harleen ฟัง จนเธอเริ่มรู้สึกเห็นใจ Joker และยอมปล่อยเขาออกจากห้องขัง อีกทั้งยังตกหลุมรัก Joker จนหัวปักหัวปำ และยอมเป็นสมุนให้กับ Joker ทั้งยังร่วมกันก่ออาชญากรรมเรื่อยมา และเป็นศัตรูตัวฉกาจอีกหนึ่งรายของ Batman จุดเริ่มต้นที่เปลี่ยน Harleen ให้กลายเป็น Harley Quinn คือครั้งหนึ่งที่ Joker ผลัก Harleen ตกลงไปในถังสารเคมี ซึ่งเป็นถังเดียวกันกับที่ Joker เคยตกลงไป และมีผมสีเขียว หน้าซีดเผือด ปากแดง ทำให้ Harleen กลายเป็น Harley Quinn ที่ทั้งแสบและร้ายกาจแบบที่เรารู้จัก และนอกจาก Joker ที่เป็นคนรักของเธอแล้ว  Harley Quinn ก็ยังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ Poison Ivy กลายเป็นคู่เลสเบี้ยนกันอีกด้วย

Wonder Woman 

อีกหนึ่งตัวละครหญิงจากจักรวาล DC ที่มีชื่อว่า Wonder Woman ผู้หญิงที่มากไปด้วยความสามารถพิเศษมากมาย อีกทั้งยังถูกยกให้เป็นฮีโร่หญิงที่เทพที่สุดในจักรวาล DC อีกด้วย ชื่อเดิมของ Wonder Woman คือ Diana (ไดอาน่า) เธอเป็นเจ้าหญิงของเผ่านักรบอเมซอน เติบโตมาบนเกาะ และตัดสินใจออกจากเกาะ เมื่อรู้ว่าโลกภายนอกมีสงครามอยู่ จากนักบินที่เธอช่วยไว้ในเหตุการณ์เครื่องบินรบของกองทัพสหรัฐตกที่เกาะ จากนั้นเธอจึงติดตามเขาไปอเมริกา เพื่อหยุดยั้งสงครามและสร้างสันติภาพ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญของเธอ

Mera

ราชินีของ Aquaman ผู้ปกครองอาณาจักรแอคแลนติค Mera ถูกหล่อหลอมให้เป็นนักสู้โดยพ่อของเธอ เพื่อหวังให้ Mera แก้แค้นและทำลายกษัตริย์อันชั่วร้ายฉายา Dead king ทั้งยังถ่ายทอดวิชาการควบคุมน้ำให้กับ Mera และเธอก็ได้สำเร็จวิชาการควบคุมน้ำที่แข็งแกร่งคนแรก ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีหลายคนพยายาม แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งพอ โดย Mera และ Aquaman ได้ร่วมกันต่อสู้และสามารถโค่นล้มบัลลังก์ของ Dead king ได้ อีกทั้งยังทำให้คำสาปถูกทำลายลง Mera ถือเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่สวยเซ็กซี่ น่ามอง และยังเก่งกาจ เหมาะที่จะเป็นฮีโร่สาว ผู้ที่นำมาซึ่งความถูกต้อง

Barbara Gordon (Batgirl)

อีกหนึ่งตัวละครหญิงในจักรวาล DC หนึ่งใน Bat Family นามว่า Barbara Gordon (บาร์บาร่า กอร์ดอน)  เป็นลูกสาวของ James Gordon อธิบดีตำรวจเมือง Gotham เคยถูก Joker ยิงไขสันหลังจนเป็นอัมพาต อีกทั้งยังโดนถ่ายภาพเปลือยที่เต็มไปด้วยเลือด และส่งให้พ่อของเธอดู เพื่อความสะใจของ Joker ทั้งนี้ยังมีประเด็นที่แฟนการ์ตูนถกเถียงกันอยู่ ว่า Barbara ถูกข่มขืนด้วยหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้มีข้อสรุปชัดเจน เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอไม่สามารถกลับมาเป็น Batgirl เพื่อปราบอธรรมได้อีก แต่เธอก็สนับสนุน Batman อยู่เบื้องหลัง โดยทำเกี่ยวกับเครือข่ายข้อมูลอาชญากรรม และคอยเจาะข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์แทน 

ทั้งหมดนี้ก็เป็นตัวละครหญิงในจักรวาล DC ที่มักถูกพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังมีแฟนคลับการ์ตูนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตัวดีหรือตัวร้าย ด้วยบุคลิกลักษณะท่าทาง นิสัยใจคอ และความเก่งกาจ ที่สำคัญคือความสวย เซ็กซี่ ที่มีอยู่ในตัวละครเหล่านี้ ซึ่งดึงดูดใจคนดูได้อย่างมาก 

โลกการ์ตูนก็มีเรื่องราวและตัวละครมากมาย ทั้งฝั่งดีและร้ายที่มีคาแร็คเตอร์แตกต่างกันออกไป และที่น่าสนใจก็คือฝั่งตัวร้ายที่มากไปด้วยบทบาท ทั้งจอมวางแผน ทั้งการโจมตีอย่างมีชั้นเชิง แสดงออกถึงความเฉลียวฉลาดจนบางครั้งฝ่ายตัวเอกก็ต้องยอมให้ จะมีใครบ้างนั้นครั้งนี้ก็ได้รวบรวมมาให้แล้ว ทั้งหมด 9 ตัวละครด้วยกัน มีทั้งฝั่งญี่ปุ่นและอเมริกา ได้แก่ 

ฝั่งญี่ปุ่น

โอโรจิมารุ จากเรื่องนารูโตะ

เปิดกันด้วยการ์ตูนเรื่องแรกชื่อดังอย่างนารูโตะ เรื่องราวของนินจาที่ถูกผนึกจิ้งจอกเก้าหางเอาไว้ในตัว และการสืบทอดโฮคาเงะของหมู่บ้านโคโนฮะรุ่นต่อรุ่น นำมาซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย โดยมีตัวละครตัวสำคัญอย่างโอโรจิมารุอยู่ในเรื่อง ซึ่งจัดว่าเป็นตัวร้ายที่สร้างความวุ่นวายให้กับหมู่บ้านไม่น้อย แต่ก็จัดว่าเป็นตัวละครที่ฉลาดหลักแหลมไม่เบา โอโรจิมารุพยายามเรียนรู้วิชานินจาทุกชนิด ทั้งยังได้ทดลองวิชาต่างๆ กับร่างกายของนินจาคนอื่นๆ รวมถึงการทดลองต้องห้ามที่อันตราย เพราะความแค้นที่ไม่ได้รับคัดเลือกให้เป็นโฮคาเงะรุ่นต่อมา

อุจิวะ อิทาจิ จากเรื่องนารูโตะ

อีกหนึ่งตัวละครจากเรื่องนารูโตะ และก็เป็นตัวร้ายที่ฉลาดสุดๆ บทบาทที่โดดเด่นที่สุดของตัวละครนี้ก็คือการฆ่าพ่อแม่แท้ๆ ของตัวเอง ที่ใครๆ ก็ต่างพูดถึง ด้วยเหตุผลบางอย่าง และถึงแม้จะทำเรื่องที่เหี้ยมโหดถึงขนาดนี้ แฟนการ์ตูนหลายๆ คนก็ยังบอกว่าจริงๆ แล้วอิทาจิเป็นคนดี แต่ที่ต้องทำก็เพราะความจำเป็น แต่ถึงอย่างนั้นอิทาจิก็คือตัวร้ายที่อยู่คนละฝั่งกับนารูโตะ อิทาจิมีพลังวิเศษคือเนตรวงแหวนกระจกหมื่นบุปผา ที่ใช้ในการต่อสู้ เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่แฟนการ์ตูนหลายคนชื่นชอบ แม้จะเป็นตัวร้ายของเรื่องก็ตาม 

ไอเซ็น โซสึเกะ จากเรื่องเทพมรณะ 

ต่อด้วยตัวละครจากการ์ตูนเรื่องเทพมรณะ นามว่า ไอเซ็น โซสึเกะ ตัวร้ายที่มีความเฉลียวฉลาด อดีตยมทูตหัวหน้าหน่วยที่ 5 ของ 13 หน่วยพิทักษ์ เป็นคนพูดจาสุภาพ และดูดีตลอดเวลา เบื้องหน้าเป็นคนที่มีความใจดีต่อผู้ใต้บังคับบัญชา แต่เบื้องลึกในจิตใจเป็นคนคิดร้าย และไม่เคยยึดติดกับความยุติธรรม ทั้งยังพร้อมที่จะกำจัดผู้อื่นได้ทุกเมื่อ หากเห็นว่าสมควรตามเหตุผลของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นคนที่มีนิสัยค่อนข้างลึกลับ 

ไวส์แมน จากเรื่องเซเลอร์มูน

อีกหนึ่งตัวร้ายจากการ์ตูนฝั่งญี่ปุ่น ในเรื่องเซเลอร์มูน ที่มีเป้าหมายชัดเจนคือการทำลายล้างจักรวาล จอมวางแผนไม่เบา มีทั้งหลอกใช้เจ้าชายเดมันด์และชาวเมนีลิสเป็นเครื่องมือ หรือแม้แต่การแต่งเรื่องหลอกอุซางิน้อยว่าแม่ไม่รัก เพื่อหวังผลประโยชน์ จนอุซางิน้อยเต็มไปด้วยพลังด้านลบ ทั้งหมดก็เพื่อเป้าหมายสำคัญของตัวเอง ที่จะทำลายล้างจักรวาล 

คูโรโร่ ลูซิเฟอร์ จากเรื่อง Hunter X Hunter 

คูโรโร่ ลูซิเฟอร์เป็นอีกหนึ่งตัวร้ายที่ฉลาด สุขุม รอบคอบ เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มแก็งค์แมงมุม มองมนุษย์เป็นเพียงมวลสารที่เคลื่อนไหวได้ ภูมิหลังของชีวิตไม่ดีนัก เติบโตมาอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครเหลียวแล สามารถขโมยความสามารถของคนอื่นมาใช้ได้ และมีนิสัยเป็นจอมวางแผนเป็นที่สุด

ฝั่งอเมริกา 

Brainiac จากเรื่อง Superman 

หนึ่งตัวละครคู่ปรับของ Superman ที่น่ากลัวไม่เบา มีความฉลาดหลักแหลม โดยระดับสติปัญญาอยู่ที่ 12 ซึ่งสูงกว่ามนุษย์ทั่วไป ที่มีสติปัญญาอยู่ในระดับ 6 เท่านั้น Brainiac มีความจำเป็นเลิศ ทั้งยังสามารถคิดคำนวณได้อย่างรวดเร็ว และเข้าใจด้านวิศวกรรมเครื่องกล พันธุกรรม และฟิสิกส์ นอกจากนี้ยังมีความสามารถพิเศษคือเข็มขัดสร้างสนามแม่เหล็กป้องกันการโจมตีของ Superman อีกทั้งเข็มขัดนั้นยังสามารถย่อขนาดเมืองใหญ่ๆ ให้เล็กลง จนถึงขั้นลงไปอยู่ในขวดแก้วได้ มีส่วนในการทำลายดาวแม่ของ Superman จากความคิดที่เหนือชั้น บวกกับความสามารถพิเศษที่มี จึงเป็นผู้ที่สร้างบาดแผลในจิตใจของ Superman เอาไว้อีกด้วย 

Red Skull จากเรื่อง Captain America

ถัดมาที่ตัวร้ายจากเรื่อง Captain America กับตัวละครที่มีชื่อว่า Red Skull ประวัติโดยสังเขป ภูมิหลังไม่ดีนัก พ่อติดเหล้า แม่เสียชีวิตตอนให้กำเนิดตัวเขาเอง กระทั่งอายุ 7 ขวบ พ่อก็ฆ่าตัวตาย กลายเป็นเด็กกำพร้า ภายหลังเข้าร่วมกองทัพของฮิตเลอร์ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยรบที่ร้ายกายที่สุดของพรรคนาซี จากฝีมือและความสามารถของเขา รวมถึงสมองอันชาญฉลาด อีกทั้งยังสามารถยิงปืนได้อย่างแม่นยำ Red Skull ไม่มีพลังพิเศษอะไรเลย แต่กลับเป็นคู่ปรับที่สร้างความยากลำบากให้กับ Captain America เสมอมา 

Joker จากเรื่อง Batman

อีกหนึ่งตัวละครที่ฉลาดหลักแหลม และเป็นคู่ปรับตลอดกาลของ Batman ภารกิจประจำวันคือการก่ออาชญากรรม และสร้างความวุ่นวายให้กับเมือง Gotham เป็นจอมวางแผนที่หวังเอาชีวิต Batman อยู่ตลอดเวลา และทุกการก่ออาชญากรรม Joker ไม่เคยต้องการเงินทองหรือทรัพย์สินอะไรเลย เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีความบ้าคลั่งอยู่มากเหมือนกัน ทุกการกระทำที่โหดเหี้ยมทารุณ Joker จะพึงพอใจกับสิ่งนั้นและหัวเราะเสียงดังออกมาเป็นสัญลักษณ์ประจำตัว 

Magneto จากเรื่อง X-men

ขอปิดท้ายด้วย Magneto จากเรื่อง X-men ตัวร้ายผู้ซึ่งเกลีดชังมนุษย์ เพราะเหตุการณ์ความฝังใจในวัยเด็ก เคยถูกทรมานในสถานกักกันของนาซี อีกทั้งยังเคยเห็นลูกสาวคนแรกตายต่อหน้าต่อตา และถูกขัดขวางไม่ให้เข้าไปช่วย จากกลุ่มคนที่เกลียด Mutants ครั้งนั้นทำให้ Magneto ปลดปล่อยพลังออกมาอย่างขาดสติ และฆ่าทุกคนจนหมด ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทำให้ Magneto เกลียดมนุษย์แบบฝังใจ และความเกลียดชังนั้นก็มากพอที่จะทำลายล้างทุกอย่างได้ นอกจากความสามารถพิเศษที่สามารถควบคุมสสารที่เป็นโลหะประเภทเหล็กแล้ว ยังมีความเฉลียวฉลาดและมีความเป็นผู้นำ 

ทั้งหมดที่กล่าวมา ล้วนเป็นตัวร้ายที่รวบรวมมาให้แฟนการ์ตูนได้เชยชม ซึ่งทั้งหมดมีความเฉลียวฉลาด จอมวางแผนและเป็นวายร้ายที่มีความน่าสนใจ หลายตัวละครก็มีผู้คนชื่นชอบอยู่มากถึงแม้จะเป็นตัวร้าย ด้วยความเก่งกาจและความสามารถที่มี